นับเป็นน้องหมาสายพันธุ์ที่น่าเลี้ยงอีกสายพันธุ์ สำหรับ คีชอน (Keeshond) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดแถบอาร์กติก (ARCTIC) หรือแถบขั้วโลก เช่นเดียวกับเหล่าซามอยด์ เชาเชา เอลค์ฮาวนด์นอร์เวย์ และปอมเมอเรเนียน อดีต ราวปี ค.ศ.1700 คีชอนจะเลี้ยงกันมากในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเฝ้ายามสอดส่องดูแลไร่นา รวมถึงเรือบรรทุกต่างๆ จนพวกมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของพรรคการเมือง ดัทช์แพทริออท มีนายคอร์เนลิส เดอ เยเซลาร์ ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขชื่อคีส ทว่า เขาเป็นผู้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “คีชอน” ต่อเมื่อพรรคของเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งเจ้าตูบพันธุ์นี้จึงได้รับความนิยมน้อยลงและเกือบสูญพันธุ์
กระทั่งศตวรรษต่อมาจึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และถูกขึ้นทะเบียนในสายพันธุ์โดย American Kennel Club (AKC) ในปี 1930 เป็นสุนัขขนาดปานกลาง สง่างาม แข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว มีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก ขนฟู หนา หางยกสูงขึ้นพาดบนหลัง สีขนผสมกันระหว่างสีเทา สีดำ และสีครีม เด่นบริเวณขอบตามีวงกลมเหมือนกับสวมแว่น ด้านความสูงเพศผู้สูงประมาณ 18 นิ้ว เพศเมีย 17 นิ้ว ช่วงอายุอยู่ระหว่าง 12-15 ปี นิสัย จะร่าเริง ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม บุคลิกภาพดี เป็นมิตร ต้องการความรักสูง เข้ากับเด็กๆ ได้ดี ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่เหมาะกับการเลี้ยงไว้ให้อยู่ร่วมกับครอบครัว
คีชอน บางตัวจะชอบเก็บตัว อาจมีแนวโน้มขี้ขลาด หรือไม่มั่นใจในตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก ดังนั้น เจ้าของจะต้องพาออกไปเดินเล่น เจอผู้คน หรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ให้เคยชิน ไม่เช่นนั้นจะทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่ไม่ไว้ใจใคร ก้าวร้าว ดุ ด้วยมีขน 2 ชั้นที่ยาวหนา จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เจ้าของต้องแปรงขนให้เป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดขนสังกะตัง และผลัดขนที่ตายแล้ว ซึ่งควรแปรงขนก่อนอาบน้ำทุกครั้ง การอาบน้ำ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ต้องพามันไปออกกำลังเป็นประจำทุกวัน หรือไม่ก็ควรสร้างกิจกรรมให้มันได้ใช้กำลังอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือวิ่งเล่นโดยเฉพาะการได้เดินเล่นกับคนในครอบครัว อีกทั้ง ต้องดูแลควบคุมปริมาณอาหารประกอบกับการพาไปออกกำลังกายป้องกันน้ำหนักเกิน
จากที่คีชอน เป็นสุนัขขนยาวและหนา ไม่สามารถทนทานได้กับอากาศร้อน ฉะนั้น ต้องระวังเรื่องความร้อนภายในร่างกายขณะออกกำลังกาย ไม่ให้เขารู้สึกร้อนจากการเผาผลาญพลังงานจนเกิดไปจนเกิดอาการชักได้ พวกมันน้องหมาที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกสะโพกเสื่อม กระดูกสะบ้าเคลื่อน ลมบ้าหมู โรคคุชชิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มอาการผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการมีฮอร์โมนสเตอรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ความผิดปกติของน้ำหนัก ขนร่วง ทั้งยังมีโรคเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด และอาการที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ฉะนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตเมื่อพวกมันมีอาการผิดปกติ โดยพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอด้วยครับ!
ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20160508/227174.html